21.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ส่วนผู้โดยสารระหว่างประเทศ ขาออก ประตู 3 เคาน์เตอร์ D โดยสายการบินไทย แอร์เวย์ THAI AIRWAYS (TG) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
23.59 น. เหินฟ้าสู่ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบินไทย แอร์เวย์ THAI AIRWAYS (TG) เที่ยวบินที่ TG 622 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง / เวลาท้องถิ่นจะเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง)
07.30 น. เดินทางถึงสนามบินคันไซ ประเทศญี่ปุ่น หลังจากผ่านขั้นตอนศุลกากรเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “เมืองนารา” เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น เพื่อชม “วัดโทไดจิ (TODAIJI TEMPLE)” สร้างขึ้นในปี 743 เพื่อแสดงบุญญาธิการของพระจักรพรรดิญี่ปุ่น ผ่านซุ้มประตู “นันไดมง” ที่ใช้เสารองรับถึง 18 ต้น ด้านล่างมี “ทวารบาล” ที่แกะสลักจากไม้ได้อย่างวิจิตร งดงาม เข้าชม “วิหารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ภายในเป็นที่ประดิษฐานของ “พระไวโรจนะ” ที่มีความสูง 16 เมตรและหนักถึง 500 ตัน ตัววิหารหลังปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี 1706 เนื่องจากของเดิมนั้นถูกไฟไหม้ โดยมีขนาดเพียง 1 ใน 3 ของวิหารหลังเดิม และระหว่างทางเดินสู่วิหารแห่งนี้ และเพลิดเพลินกับความน่ารักและการป้อนอาหารให้กับฝูงกวางมากมายที่ปล่อยให้อยู่ตามธรรมชาติที่ “สวนกวาง”
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านสู่ “หมู่บ้านนินจาอิงะ (IGA RYU NINJA)” ประกอบด้วยบ้านพักอาศัยในอดีต ห้องแสดงนิทรรศการ 2 ห้อง สำหรับจัดแสดงของสะสมที่เกี่ยวกับการเป็นนินจา รวมถึงงานเขียนโบราณ พร้อมกับอาวุธนินจาประเภทต่างๆไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมด้วย รวมถึงหากใครอยากลองเป็นนินจาดูสักครั้งก็มีชุดนินจาให้เช่าและขายอีกด้วย จากนั้นนำทุกท่านเดินทางไปเพลิดเพลินกับการชม “เทศกาลประดับไฟฤดูหนาว (NABANA NO SATO)” ที่นี่นอกจากตอนกลางวันจะเป็นสวนดอกไม้แล้วยามค่ำคืนของช่วงฤดูหนาวในทุกๆปียังประดับไฟอย่างสวยงามในธีมต่างๆหลากหลายโซน ซึ่งเป็นงานจัดแสดงไฟที่ยิ่งใหญ่ติดอันดับ1ของญี่ปุ่น
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ HOTEL ROUTE INN GRANTIA KOMAKI หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านสู่ “เมืองทาคายาม่า” เพื่อชม “ที่ทำการทาคายาม่าจินยะ (TAKAYAMA JINYA)” หรือ จวนผู้ว่าแห่งเมืองทาคายามาในอดีต (ไม่รวมค่าเข้าชมด้านใน) เป็นทั้งที่ทำงานและที่อยู่อาศัยของผู้ว่าราชการจังหวัดฮิดะ เป็นเวลากว่า 176 ปี ภายใต้การปกครองของโชกุนตระกูลโตกุกาว่า ในสมัยเอโดะ หรือกว่า 300 ปีที่แล้ว ให้ท่านเลือกชมและซื้อสินค้าพื้นเมือง ณ “เขตเมืองเก่าซันมาชิซูจิ (SANMACHISUJI)” ซึ่งเต็มไปด้วยบ้านเรือนและร้านค้าน่ารักๆ ที่ยังคงอนุรักษ์รูปแบบของบ้านโบราณ และกลิ่นไอในสมัยเอโดะกว่า 300 ปีก่อน ให้ท่านได้เก็บบรรยากาศอันน่าประทับใจ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (SHIRAKAWAGO)” นำท่านชมสถานที่พิเศษสุด ซึ่งแสดงถึง ความสามารถและพยายามของชนชาติญี่ปุ่นโบราณ หมู่บ้านที่ได้รับเลือกจากองค์การ ยูเนสโกให้เป็นหมู่บ้านมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1995 ท่านจะได้พบกับบ้านในแบบกัสโชสึคุริ ซึ่งเป็นแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ชื่อนี้ได้มาจากคำว่า กัสโช ซึ่งแปลว่าพนมมือ ตามรูปแบบของบ้านที่หลังคาชันถึง 60 องศา มีลักษณะคล้ายสองมือที่พนมเข้าหากัน ตัวบ้านมีความยาวประมาณ 18 เมตร และมีความกว้าง 10 เมตร ซึ่งโครงสร้างของบ้านสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว แต่ยังคงความแข็งแรงสามารถรองรับหิมะที่ตกมาอย่างหนักในช่วงฤดูหนาวได้ดี ให้อิสระท่านเดินชมความสวยงามของหมู่บ้านแห่งนี้ตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัดหมาย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ HOTEL ROUTE INN TAKAOKA EKIMAE หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่จุดเริ่มต้นของ “เส้นทางเจแปน แอลป์ (ALPINE ROUTE)” เส้นทางท่องเที่ยวคลาสสิคที่ท่านจะประทับใจไม่รู้ลืม โดยผู้คนจำนวนมากจากทุกมุมโลกล้วนรู้สึกประทับใจอย่างมากมายกับความสูง 18 เมตรของกำแพงหิมะ เมื่อมองไกล ๆ จากรถบัสด้านบน เป็นท้องฟ้าสีคราม,มองระหว่างแนวกำแพงหิมะเป็นภูเขาฉาบหิมะสีขาวจัดมากมาย รวมทั้งเมื่อเดินเล่นกลางทุ่งหิมะที่เห็นสุดลูกหูลูกตาที่มูโรโด ซึ่งตลอดเส้นทางจากจุดเริ่มต้นจนถึงปลายทาง ท่านจะได้เปลี่ยนอิริยาบถตลอดการเดินทางดังนี้
* นำท่านนั่งรถกระเช้าไฟฟ้ารูปขั้นบันไดจากที่ราบสูงบิโจไดร่าเพื่อเปลี่ยนรถโค้ชสายธรรมชาติได้ และชมความแรงของน้ำที่ปล่อยออกจากแอ่งน้ำสีเขียวมรกตที่พวยพุ่งส่งเสียงดังสนั่นสู่เบื้องล่างเมื่อถึงฤดูหนาวน้ำจะกลายเป็นแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่
* ดอยมุโรโด นำท่านโดยสารรถโค้ชสู่ยอดดอย โดยโชเฟอร์มืออาชีพ ผ่านป่าสนและทุ่งราบที่มีมนต์เสน่ห์แตกต่างกันทุกฤดู เช่น น้ำตกเมียวโจ เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ผ่านป่าสนดึกดำบรรพ์ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี และลัดเลาะไปตามซอกกำแพงหิมะที่สูงกว่า 20 เมตร (ช่วงกลางเดือนเม.ย.ถึงต้นเดือนพฤษภาคม) ถึงยอดดอยมุโรโด คือ จุดชมวิวสูงสุดของเส้นทางนี้บริเวณยอดเขาท่านสามารถแลเห็นทะเลสาบน้อยใหญ่ ทะเลเมฆที่ตัดกับขอบฟ้าสีสดตลอดทั้งวันทั้งคืน สร้างความประทับใจให้แก่ท่านมิรู้ลืม
* ไดคัมโป นำท่านโดยสารรถโค้ชไฟฟ้าไร้มลพิษทะลุอุโมงค์ใต้ภูเขาทาเทยาม่าที่สูงถึง 3,015 เมตร สูงเป็นที่สองรองจากภูเขาไฟฟูจิ สู่ที่ราบไดคัมโป เพื่อชมทัศนียภาพอีกฟากฝั่งของภูเขา
รับประทานอาหารกลางวัน บริการท่านด้วยอาหารญี่ปุ่นแบบเซ็ตเบ็นโตะ (เซ็ตกล่อง)
* คุโรเบะไดร่า ที่ราบสูงบนไหล่เขาที่ท่านสามารถชมทัศนียภาพของช่องเขาที่เป็นเหวลึก สร้างความตื่นตาตื่นใจยิ่งแก่นักท่องเที่ยวทุกคน นำท่านโดยสารกระเช้าข้ามเหวลึกซึ่งสลิงของกระเช้าจากต้นทางถึงปลายทาง ไม่มีเสาค้ำสลิงคั่นกลางเลยเป็นทางยาว 1,700 เมตร จึงได้ฉายาว่ากระเช้าพาโนราม่า
* เขื่อนคุโรเบะ นำท่านโดยสารรถกระเช้าไฟฟ้ารูปขั้นบันไดอีกครั้งเพื่อลดระดับลงสู่สันเขื่อนคุโรเบะ เขื่อนขนาดยักษ์ที่มีความยาวของสันเขื่อนถึง 800 เมตร ท่านสามารถเดินชมวิวที่โอฬารตระการตาของเทือกเขา
* โองิซาว่า เส้นทางธรรมชาติ นำท่านโดยสารรถโค้ชไฟฟ้าปลอดมลพิษทะลุอุโมงค์ใต้ภูเขาเป็นทางยาวรวมถึง 6.1 กิโลเมตร
รับประทานอาหารกลางค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ ALPICO PLAZA HOTEL MATSUMOTO หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านสู่ “คามิโคจิ (KAMIKOCHI)” กล่าวคือหุบเขาสวยงามในจังหวัดนากาโนะ ตั้งอยู่บนความสูงประมาณ 1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ด้วยตำแหน่งที่ตั้งที่อยู่กึ่งกลางระหว่างเมืองมัตสึโมโต้และทาคายาม่า ทำให้คามิโคจิเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ด้วยทัศนียภาพงดงามที่ธรรมชาติได้สรรสร้างขึ้น และได้รับการขนานนามว่าเป็นสถานที่พักตากอากาศ ซึ่งท่านสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของสะพานคัปปะบาชิ สัญลักษณ์ของคามิโคจิที่ทอดข้ามแม่น้ำอะซึสะ เป็นสะพานแขวนที่ทำจากไม้ หากยืนบนสะพานจะสามารถมองเห็นเทือกเขายะเกะตะเกะ และเทือกเขาโฮตากะทางด้านเหนือ โดยเฉพาะบรรยากาศฤดูใบไม้ผลิภายในอุทยานอาจจะยังมีหิมะปกคลุมบริเวณยอดเขาอย่างเห็นได้ชัด อุณหภูมิลดต่ำลงให้ความรู้สึกเหมือนช่วงปลายฤดูหนาว ทั้งนี้เวลาเริ่มเปิดอุทยานตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน จนถึง 15 พฤศจิกายน ของทุกปี
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางเที่ยว “เมืองมัตสึโมโต้” เพื่อนำท่านชม “ปราสาทมัตสึโมโต้ (MATSUMOTO CASTLE)” สัญลักษณ์ของเมือง และได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่มีความสวยงามที่สุดของญี่ปุ่น ที่สามารถรอดพ้นการถูกทำลายจากเพลิงของสงครามมาได้จนถึงปัจจุบัน ตัวปราสาทมีผนัง ที่ทาด้วยสีดำสนิททำให้มีฉายาว่า ปราสาทอีกาดำ (ไม่รวมค่าเข้าชมภายในปราสาท) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “เมืองชิซูโอกะ” มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะจังหวัดที่ตั้งของภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) จุดหมายที่คนจากทั่วโลกปรารถนาไปเยือน มีจุดชมวิวที่เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ของภูเขาแห่งนี้ และยังเป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายอุดมสมบูรณ์ทั้งทางธรรมชาติ และอาหารการกิน เพื่อนำท่านเดินทางสู่แหล่งช้อปปิ้งอย่างจุใจกับสินค้าแบรนด์เนมที่ “โกเท็มบะ แฟคทอรี่ เอ้าท์เล็ต (GOTEMBA OUTLET)” แหล่งรวมสินค้านำเข้าและสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นโกอินเตอร์มากมาย ทั้งกระเป๋า เครื่องประดับ และนาฬิกาหรู รองเท้าแฟชั่น สินค้าสำหรับคุณหนู และสินค้าอื่นๆอีกมากมาย
พักที่ YUKARI NO MORI HOTEL FUJIKAWAGUCHIKO หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรมพิเศษ!!ทานขาปูยักษ์ อันขึ้นชื่อของญี่ปุ่น แบบไม่อั้น
พิเศษ! ณ โรงแรมที่พักแห่งนี้ ท่านจะได้สัมผัสกับการอาบน้ำแร่ หรือ เรียกอีกอย่างว่าออนเซ็น เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า การอาบน้ำแร่ จะทำให้ เลือดลมดี, ผิวพรรณสดใส, สุขภาพดี, ผ่อนคลายความเมื่อยล้า และยังช่วยในระบบการเผาผลาญของร่างกายอีกด้วย
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านชม “เทศกาลทุ่งดอกไม้ ฟูจิชิบะซากุระ (FUJI SHIBAZAKURA FESTIVAL)” มีชื่อเสียงที่สุดในการชมดอกชิบะซากุระ ซึ่งจัดขึ้นในบริเวณทะเลสาบทั้งห้าของภูเขาไฟฟูจิ ห่างจากทะเลสาบโมโตสุโกะไปทางทิศใต้ 3 กิโลเมตร ท่านจะได้ชมทิวทัศน์ที่งดงามของทุ่งดอกชิบะซากุระอันกว้างใหญ่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิที่สูงตระหง่านในวันที่ฟ้าโปร่งใส ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมดอกไม้จะแตกต่างกัน แต่มักจะอยู่ในช่วงสามสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม ทั่วทุกหย่อมหญ้าจะเต็มไปด้วยต้นชิบะซากุระประมาณ 800,000 ต้น รวม 5 สายพันธุ์ มีทั้งสีชมพู สีขาว และสีม่วงในเฉดต่างๆ ให้ท่านได้ถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึกอย่างสวยงาม (เทศกาลจัดขึ้นในช่วงประมาณกลางเดือนเมษายน – ต้นเดือนมิถุนายนเป็นประจำทุกปี)
นำท่านเดินทางสู่ “เมืองคามาคุระ” ให้ท่านสัมผัสการนั่ง “รถไฟสายเอโนะเดน (ENODEN TRAIN)” เพื่อชมความงามริม อ่าวซางามิ ของเมืองคามาคูระ สัมผัสบรรยากาศแบบโรแมนติกและชมธรรมชาติ และยังเป็นรถไฟสายที่มีชื่อเสียงสายหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกนิยม
รับประทานอาหารกลางวันแบบอิสระ เพื่อให้ท่านได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า (ไม่รวมค่าอาหาร)
จากนั้นนำท่านกราบนมัสการขอพรจาก “หลวงพ่อโตไดบุทสึ (KAMAKURA DAIBUTSU)” พระพุทธรูปสำริดองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ในอดีตกาลเคยประดิษฐานอยู่ในวิหาร แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1368 วิหารได้ถูกพายุพัดจนได้รับความเสียหาย และต่อมาในปี ค.ศ. 1495 ถูกคลื่นยักษ์กลืนหายไปในทะเล แต่องค์พระมิได้ชำรุดเสียหายแต่ประการใดจวบจนกระทั่งปัจจุบันนับเป็นเวลากว่า 800 ปีแล้ว
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “มหานครโตเกียว” เพื่อนำท่านสู่ “ย่านชินจูกุ (SHINJUKU)” ย่านแห่งความเจริญอันดับหนึ่งของกรุงโตเกียว ท่านจะได้พบกับ แมวยักษ์ 3 มิติ โลดแล่นบนจอโฆษณา ซึ่งมีความโค้งขนาด 154 ตารางเมตร ลำโพงคุณภาพสูง ความละเอียดภาพระดับ 4 เคที่ให้ภาพเสมือนจริงแสดงภาพเหมียวเดินเล่นไปมาอยู่เหนือกรุงโตเกียว นับเป็นย่านห้างสรรพสินค้า และร้านขายของเป็นพันๆ ร้าน ซึ่งจะมีผู้คนนับหมื่นเดินกันขวักไขว่ ถือเป็นจุดนัดพบยอดนิยมอีกด้วย เชิญท่านเลือกชมสินค้ามากมาย อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า, กล้องถ่ายรูป, นาฬิกา, เสื้อผ้า, รองเท้าแฟชั่น และเครื่องสำอาง เป็นต้น อิสระให้ท่านได้เพลินเพลินกับการ “เลือกชมและซื้อ” สินค้าตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำแบบอิสระ เพื่อให้ท่านได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า (ไม่รวมค่าอาหาร)
สมควรแก่เวลาเดินทางสู่ “สนามบินฮาเนดะ” เพื่อเดินทางกลับ
00.20 น. เหินฟ้าสู่เมืองไทย โดยสายการบินไทย แอร์เวย์ THAI AIRWAYS (TG) เที่ยวบินที่ TG661
04.50 น. เดินทางถึงเมืองไทย พร้อมกับความประทับใจเต็มเปี่ยม
99/8 ซอยนวมินทร์ 53 แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10240